173 จำนวนผู้เข้าชม |
การล้างรถยนต์ ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เหมาะกับเวลาว่าง เพราะจะช่วยให้คุณได้ผ่อนคลาย ได้ออกกำลังกาย ที่สำคัญยังช่วยให้คุณประหยัดค่าใช้จ่ายในการ ล้างรถยนต์ และช่วยให้คุณมีเวลาว่างได้ใส่ใจ ดูแลรถยนต์ที่คุณรักด้วย วันนี้เราจะมาแนะนำเทคนิคการล้างรถให้เงางามเหมือนพึ่งออกรถป้ายแดงกัน!!
เริ่มที่ขั้นตอนการเตรียมพร้อมสำหรับล้างรถยนต์
1. จอดรถและล้างในที่ร่ม ไม่ควรล้างรถกลางแดด
ขั้นแรกเลยแนะนำถ้าเป็นไปได้อยากให้คุณจอดรถยนต์ล้างในที่ร่ม และอย่าลืมปิดประตูหน้าต่างทั้งหมดด้วยนะ
*ทำไมถึงไม่ควรล้างรถกลางแดด!? เพราะการล้างรถกลางแดดจะทำให้ผิวรถยนต์ของคุณร้อนและแห้งเร็ว ซึ่งเป็นส่วนนึงทำให้เกิดคราบน้ำบนผิวรถ ทำให้การทำความสะอาดยากขึ้นและเสียเวลายิ่งขึ้น
2. เตรียมอุปกรณ์ล้างรถต่างๆ ให้พร้อม
สำหรับอุปกรณ์ที่เราแนะนำต้องมีสำหรับการล้างรถ
● ถังน้ำ 2 ใบ : สำหรับใส่น้ำยาล้างรถ และซักผ้า-ล้างฟองน้ำ
● ฟองน้ำล้างรถ : ควรใช้แยกแต่ละส่วนกันนะ
- ฟองน้ำล้างรถ หรือ ผ้าล้างรถ
- ฟองน้ำทายาง หรือ ใยบวบ : สำหรับขัดล้างล้อ-ซุ้มล้อ รถยนต์
● ผ้าไมโครไฟเบอร์ : เตรียมไว้อย่างน้อย 3 ผืน เพื่อใช้แยกเช็ดแต่ละส่วนกันระหว่างผิวรถยนต์และบริเวณล้อรถยนต์
3. ผสมน้ำยาล้างรถ
ผสมน้ำยาล้างรถกับน้ำเปล่าในปริมาณที่เหมาะสมในถังน้ำ และเตรียมถังน้ำเปล่าสำหรับล้างฟองน้ำให้พร้อม
*สำหรับใครที่สนใจสั่งซื้อฟองน้ำ-ผ้าไมโครไฟเบอร์ เกรดคุณภาพสามารถสั่งซื้อได้ที่นี่เลย คลิก
มาเริ่มกันเลย! สำหรับเทคนิคขั้นตอนการล้างรถอย่างถูกวิธี
1. ฉีดน้ำเพื่อขจัดคราบสกปรกกันก่อน
ฉีดน้ำให้แรงที่สุด โดยฉีดน้ำทั้งคันไล่จากบนหลังคารถ ลงมาด้านข้างของรถ เพื่อให้คราบฝุ่น ขี้ดิน และสิ่งสกปรกต่างๆ หลุดออกจากตัวรถให้มากที่สุด หรือเพื่อให้สิ่งสกปรกที่อยู่บนผิวรถยนต์ อ่อนตัวลง
2. เริ่มต้นจากการล้างล้อรถยนต์ก่อน
คนส่วนใหญ่อาจคิดว่า ควรจะล้างที่ตัวรถก่อน แต่ล้อรถมักจะเป็นส่วนที่สกปรกที่สุดจึง ควรจะล้างส่วนล้อรถยนต์ให้สะอาดก่อน เพื่อที่สิ่งสกปรกจากล้อจะได้ไม่กระเด็นไปโดนส่วนผิวรถ
*หากคุณล้างล้อรถยนต์เป็นลำดับสุดท้าย ขณะที่กำลังล้างล้อรถยต์ จะทำให้ผิวรถอาจจะแห้งเอง และจะทำให้เกิดคราบน้ำบนผิวรถของคุณได้
3. ล้างรถ ไล่จากบนหลังคารถ ลงมาด้านข้างของรถ
เริ่มต้นแช่ผ้าหรือฟองน้ำล้างรถในถังน้ำยาที่ผสมไว้แล้วก่อน แล้วนำมาขัดทำความสะอาดผิวโดยไล่จากหลังคารถ แล้วค่อยลงมาด้านข้างของรถ
*ข้อแนะนำไม่ควรออกแรงขัดมากเกินไป เพราะอาจจะทำให้รถยนต์เกิดรอยขีดข่วน หรือ ทำให้สีรถยนต์เสียหายได้
4. ระหว่างเช็ดรถให้ล้างสิ่งสกปรกออกจาก ฟองน้ำ-ผ้าไมโครไฟเบอร์ ที่ใช้ล้างรถบ่อย ๆ
คุณควรจะล้างทำความสะอาดผ้าไมโครไฟเบอร์และฟองน้ำบ่อยๆ ส่วนนึงเพื่อป้องเศษฝุ่นและเม็ดทรายเล็กๆ ที่จะติดอยู่ตามผ้าหรือฟองน้ำ เนื่องจากถ้าไม่ล้างอาจจะมีโอกาสที่จะเกิด รอยขีดข่วน หรือ รอยขนแมวบนรถยนต์ ของคุณได้
*ผ้าไมโครไฟเบอร์ ส่วนใหญ่จะเป็นที่นิยมในการใช้ล้างรถมากกว่า เนื่องจากโอกาสที่ฝุ่นและเม็ดทรายจะติดเข้าไปน้อยกว่า แต่ฟองน้ำเองก็มีข้อดีตรงสามารถซึบซับน้ำและน้ำยาได้ดีกว่า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความถนัดของแต่ละบุคคลอีกทีนะ
5. ฉีดน้ำล้างน้ำยาล้างรถออกให้หมดทั่วคัน
เมื่อล้างน้ำยาเสร็จทั้งคันแล้ว ให้ล้างน้ำเปล่าซ้ำอีกครั้ง และขณะที่ล้างควรให้ผิวรถยนต์ทั้งคันเปียกน้ำ เพื่อป้องกันการเกิดคราบน้ำบนผิวรถ
*ไม่ควรปล่อยน้ำยาล้างรถแห้งบนผิวรถ เนื่องจากอาจทำให้เกิดคราบน้ำบนผิวรถได้
6. ล้างช่วงล่างเป็นลำดับสุดท้าย
ควรใช้ ฟองน้ำ หรือ ผ้าล้างรถยนต์ โดยไม่ใช้ปนกัน
7. ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ เช็ดรถให้แห้ง
ในการเช็ดรถให้แห้งแนะนำว่าให้ใช้ผ้าหลายผืนในการเช็ดรถ จะช่วยลดโอกาสที่ผิวรถจะเกิดรอยขีดข่วนลง รวมไปถึงควรเช็ดผิวรถทั้งคันให้แห้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดคราบน้ำและสนิม การเช็ดผิวให้ไล่จากด้านบนหลังคารถลงมาด้านล่างและปิดท้ายด้วยการเช็ดล้อเป็นลำดับสุดท้าย
หากคุณกำลังสนใจจะ ล้างรถ แล้วล่ะก็… ต้องที่ Topone Carwash&Spa สาขา ถนน เบญจางค์ ล้างรถอุดรธานี ต้องนึกถึงเรา
สามารสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ LINE@ และ facebook